อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ตามมาคือความสับสนและคำถามที่ว่า “ใครเป็นฝ่ายถูก ใครเป็นฝ่ายผิด?” การตัดสินความถูกผิดในอุบัติเหตุรถชนไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรู้สึก แต่มีหลักการทางกฎหมายและข้อเท็จจริงประกอบกัน บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงปัจจัยสำคัญที่ใช้ในการพิจารณาหาผู้กระทำความผิด เพื่อให้คุณพร้อมรับมือหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
กฎหมายจราจรคือหัวใจสำคัญของการพิจารณา
สิ่งแรกที่พนักงานสอบสวนใช้เป็นหลักในการพิจารณาความถูกผิดคือ กฎหมายจราจรทางบก ซึ่งเป็นกรอบการปฏิบัติที่ผู้ขับขี่ทุกคนต้องยึดถือ หากเกิดอุบัติเหตุจากการฝ่าฝืนกฎหมายข้อใดข้อหนึ่ง เช่น ขับรถด้วยความเร็วเกินกำหนด, ขับรถย้อนศร, ไม่หยุดรถให้คนข้ามถนนที่ทางม้าลาย หรือเปลี่ยนช่องทางเดินรถโดยไม่ให้สัญญาณไฟเลี้ยว ผู้ที่กระทำผิดกฎจราจรย่อมมีความผิดและเป็นฝ่ายต้องรับผิดชอบในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
หลักฐานคือสิ่งสำคัญที่สุด
การกล่าวอ้างว่า “อีกฝ่ายขับมาชนผม” ไม่เพียงพอที่จะตัดสินความถูกผิดได้ การรวบรวมหลักฐาน ณ จุดเกิดเหตุจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ หลักฐานที่สำคัญได้แก่:
- ภาพถ่าย/วิดีโอจากกล้องหน้ารถ: สิ่งนี้ถือเป็นหลักฐานที่มีน้ำหนักมากที่สุด เพราะบันทึกเหตุการณ์ไว้ตามความเป็นจริง
- ภาพถ่ายสภาพความเสียหายของรถทั้งสองฝ่าย: ตำแหน่งที่ชนกัน, รอยเฉี่ยวชน, และทิศทางของรถหลังชน สามารถใช้ประกอบการพิจารณาได้
- พยานบุคคล: หากมีผู้เห็นเหตุการณ์ การจดชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของพยานไว้จะช่วยได้มาก
- รอยเบรกบนพื้นถนน: รอยเบรกสามารถบ่งบอกถึงระยะการหยุดรถและความเร็วโดยประมาณ
การเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถสรุปเหตุการณ์และตัดสินได้ว่าใครเป็นผู้กระทำความผิดที่แท้จริง
การจ่ายค่าเสียหาย: ประกันรถยนต์และการยอมความ
เมื่อมีการสรุปความถูกผิดแล้ว ฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบจะถูกเรียกให้ จ่ายค่าเสียหายรถยนต์ และอาจรวมถึง ค่ารักษาพยาบาล ของผู้บาดเจ็บด้วย ในกรณีนี้ ประกันรถยนต์ จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ หากคุณทำประกันภัยชั้น 1 หรือประกันภัยชั้น 2+ ที่คุ้มครองความเสียหายต่อคู่กรณี บริษัทประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้แทนคุณ
อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีที่เกิดความเสียหายไม่มากและทั้งสองฝ่ายยินยอมที่จะ เจรจาตกลงกันเอง โดยไม่ผ่านเจ้าหน้าที่ ก็สามารถทำได้ แต่ควรมีบันทึกข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อป้องกันปัญหาในภายหลัง
อุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี: ใครรับผิดชอบ?
หากคุณประสบอุบัติเหตุชนกับสิ่งของ, ต้นไม้, หรือเสาไฟ และรถคุณเสียหายโดย ไม่มีคู่กรณี คุณจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด หากคุณทำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันจะคุ้มครองค่าซ่อมรถของคุณในส่วนนี้ แต่หากคุณทำประกันประเภทอื่น อาจต้องตรวจสอบเงื่อนไขความคุ้มครองให้ดี
สรุป: เตรียมพร้อมรับมืออุบัติเหตุอย่างมีสติ
การทำความเข้าใจหลักการ ใครถูกใครผิด ในอุบัติเหตุรถชนจะช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างมีสติ กฎหมายจราจร และ หลักฐาน คือสิ่งสำคัญที่สุด และ ประกันรถยนต์ คือเครื่องมือที่จะช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินได้อย่างมหาศาล
หากคุณต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมและอุ่นใจเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การเลือกทำประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การขับขี่ของคุณจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ เพื่อให้ทุกการเดินทางของคุณปลอดภัยและหมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด
สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ:
Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์
Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า)
โทรศัพท์ : 083-5161596 หรือ 093-4083377
อีเมล : contact@iddrives.