เช็คสภาพรถหลังน้ำท่วม รู้ทันก่อนรถพัง ป้องกันอันตรายจากความเสียหายที่มองไม่เห็น

ในบทความนี้ โรงเรียนสอบขับรถไอดีไดร์ฟเวอร์ จะพาเรามาดูวิธีการเช็คสภาพรถหลังน้ำท่วม รวมถึงสิ่งที่ควรทำหากพบปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการจมน้ำของรถ

น้ำท่วมเป็นเหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในหลายพื้นที่ และอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเราอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่มีรถยนต์ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม การตรวจเช็คสภาพรถหลังน้ำท่วมเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้รถของคุณสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย และยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมในอนาคตได้อีกด้วย

ตรวจสอบสภาพภายนอกของรถ

สิ่งแรกที่ควรทำคือการตรวจสอบสภาพภายนอกของรถให้ละเอียด ตั้งแต่แชสซีถึงปีกและประตู เมื่อรถได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จะมีโอกาสที่สีของรถอาจจะเปลี่ยนแปลงหรือเกิดการกัดกร่อนจากน้ำ หากพบรอยผุพังที่ใด ควรนำรถไปซ่อมทันทีเพื่อป้องกันความเสียหายที่รุนแรงขึ้น

ตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์และระบบไฟฟ้า

เครื่องยนต์เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในรถยนต์ การตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์หลังน้ำท่วมจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดความเสียหายระยะยาว เช่น การเกิดสนิมหรือการลัดวงจรจากน้ำที่ไหลเข้าไปในระบบไฟฟ้า ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีน้ำขังอยู่ในห้องเครื่องและไม่พบสนิมที่อาจส่งผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์

การตรวจเช็คการทำงานของระบบไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบ ECU (Electronic Control Unit) หรือเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ควรให้ช่างผู้ชำนาญการตรวจเช็คอย่างละเอียด

ตรวจสอบระบบเบรก

ระบบเบรกเป็นอีกส่วนที่สำคัญอย่างยิ่งในการขับขี่เพื่อความปลอดภัย หลังจากน้ำท่วม ควรตรวจเช็คการทำงานของระบบเบรก ว่ายังคงทำงานได้ตามปกติหรือไม่ เนื่องจากน้ำอาจเข้าไปในเบรกและทำให้ประสิทธิภาพการเบรกลดลงได้

หากพบปัญหาการเบรกไม่ค่อยดี หรือพบคราบน้ำที่มีสนิม ควรรีบตรวจสอบและซ่อมแซมทันที เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการขับขี่

ตรวจสอบระบบการระบายความร้อน

รถยนต์ที่จมน้ำอาจได้รับผลกระทบจากการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ระบบหล่อเย็นหรือหม้อน้ำอาจได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ซึ่งอาจทำให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไปหรือเกิดการระเบิดได้ ควรตรวจเช็คหม้อน้ำและระบบหล่อเย็นให้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหายในอนาคต

ตรวจสอบภายในห้องโดยสาร

การตรวจเช็คสภาพภายในห้องโดยสารเป็นสิ่งที่ควรทำโดยเฉพาะเมื่อรถจมน้ำ ภายในห้องโดยสารมีส่วนที่เสี่ยงต่อการได้รับความเสียหายจากน้ำ เช่น พรม, เบาะ, และระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ภายในรถ ควรตรวจเช็คว่าไม่มีน้ำขังที่สามารถทำให้เกิดกลิ่นอับชื้น หรือทำให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า

ตรวจเช็คระบบอากาศ

ระบบปรับอากาศและเครื่องฟอกอากาศในรถก็เป็นส่วนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมได้ น้ำอาจทำให้ระบบแอร์เสียหายได้ ควรตรวจสอบว่าเครื่องฟอกอากาศทำงานได้ตามปกติหรือไม่ และไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์

การบริการซ่อมแซมและบำรุงรักษาหลังน้ำท่วม

หลังจากการตรวจเช็คสภาพรถแล้ว หากพบความเสียหายหรืออุปกรณ์บางอย่างที่ทำงานผิดปกติ ควรนำรถไปให้ช่างผู้ชำนาญการตรวจซ่อมแซม อาจจะต้องทำการล้างทำความสะอาดหรือซ่อมแซมระบบที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

คำแนะนำเพิ่มเติมในการดูแลรถหลังน้ำท่วม

  • รีบทำการตรวจเช็คทันทีหลังจากน้ำลด: หากปล่อยไว้นานอาจทำให้รถได้รับความเสียหายมากขึ้น
  • ห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์หากมีน้ำอยู่ในระบบ: การสตาร์ทเครื่องยนต์ขณะที่มีน้ำอาจทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อเครื่องยนต์
  • ให้ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจเช็ค: การให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจเช็คสภาพรถเป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของคุณ

สรุป

การเช็คสภาพรถหลังน้ำท่วมเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน และการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หลังจากน้ำท่วม ควรตรวจสอบเครื่องยนต์, ระบบไฟฟ้า, เบรก, ระบบการระบายความร้อน และอุปกรณ์อื่น ๆ ภายในรถอย่างละเอียด หากพบปัญหา ควรนำรถไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจซ่อมแซมทันที

การดูแลรถหลังน้ำท่วมไม่เพียงแต่ช่วยให้รถของคุณกลับมาใช้งานได้ดีเท่านั้น แต่ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมในอนาคตได้อีกด้วย

สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ:
Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์
Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า)
โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377
อีเมล : contact@iddrives.co.th

บทความล่าสุด

ข่าวล่าสุด