สัญญาณไฟจราจรในญี่ปุ่น คู่มือครบวงจรสำหรับนักขับมือใหม่และผู้ที่สนใจ

บทนำ

การเดินทางในญี่ปุ่น, ไม่ว่าจะด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถเช่า, เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม, เพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการทำผิดกฎจราจร, การทำความเข้าใจ สัญญาณไฟจราจรในญี่ปุ่น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม. บทความนี้โรงเรียนสอนขับรถ ไอดีไดรฟ์เวอร์จะเจาะลึกถึงความหมายของ ป้ายจราจรญี่ปุ่น และ สัญลักษณ์จราจรญี่ปุ่น ที่สำคัญ เพื่อให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย.


ความแตกต่างที่สำคัญของสัญญาณไฟจราจรญี่ปุ่น

สัญญาณไฟจราจรของญี่ปุ่นมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับสากล แต่ก็มีความแตกต่างที่น่าสนใจและควรทราบ:

  • สีของไฟจราจร: โดยทั่วไปแล้ว, ไฟจราจรของญี่ปุ่นจะมีสามสีหลักคือ สีแดง (止まれ) ที่หมายถึง “หยุด”, สีเหลือง (注意) ที่หมายถึง “ระวัง” หรือ “เตรียมตัวหยุด”, และ สีเขียว (進め) ที่หมายถึง “ไปได้”. อย่างไรก็ตาม, ในหลายพื้นที่อาจพบไฟจราจรที่มีสีฟ้า (青) แทนสีเขียว ซึ่งมีความหมายเหมือนกัน. นี่เป็นเพราะคำว่า “สีเขียว” ในภาษาญี่ปุ่น (緑, midori) มักถูกใช้แทนคำว่า “สีฟ้า” (青, ao) ในภาษาโบราณ.
  • ไฟลูกศร: สัญญาณไฟลูกศรเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยในญี่ปุ่น โดยแต่ละลูกศรจะบ่งบอกทิศทางที่รถสามารถเคลื่อนที่ได้. ตัวอย่างเช่น, ลูกศรชี้ตรงหมายถึงไปตรงได้, ลูกศรชี้ซ้ายหมายถึงเลี้ยวซ้ายได้, และลูกศรชี้ขวาหมายถึงเลี้ยวขวาได้. การมีไฟลูกศรช่วยให้การจราจรไหลลื่นและลดความสับสน.

ประเภทของป้ายจราจรในญี่ปุ่น

ป้ายจราจรในญี่ปุ่น สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทตามลักษณะการใช้งานและรูปร่าง:

  • ป้ายบังคับ (指示標識): มักเป็นป้ายทรงกลมสีน้ำเงินหรือสีขาว มีเครื่องหมายหรือตัวอักษรสีแดงหรือดำอยู่ด้านใน. ป้ายเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อบังคับให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด เช่น ป้ายจำกัดความเร็ว (速度制限) และป้ายห้ามเลี้ยว (右折禁止 / 左折禁止).
  • ป้ายเตือน (警戒標識): มักเป็นป้ายทรงสามเหลี่ยมสีเหลือง มีกรอบสีแดงและสัญลักษณ์สีดำอยู่ด้านใน. ป้ายเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อเตือนผู้ขับขี่ให้ระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นข้างหน้า เช่น ทางโค้งอันตราย (カーブ), ทางแยก (交差点), และทางม้าลาย (横断歩道).
  • ป้ายแนะนำ (案内標識): มักเป็นป้ายทรงสี่เหลี่ยมสีเขียวหรือสีน้ำเงิน ที่ใช้สำหรับแนะนำเส้นทาง, บอกระยะทาง หรือบ่งบอกสถานที่สำคัญต่างๆ. ป้ายประเภทนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
  • ป้ายเสริม (補助標識): เป็นป้ายเล็กๆ ที่ติดอยู่ใต้ป้ายหลัก เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ระยะทางที่กฎบังคับมีผลบังคับใช้ หรือเวลาที่กฎนั้นๆ มีผล.

สัญลักษณ์จราจรญี่ปุ่นที่พบบ่อย

นอกจากป้ายแล้ว, ยังมี สัญลักษณ์จราจรญี่ปุ่น ที่ปรากฏบนพื้นถนนและมีความสำคัญไม่แพ้กัน:

  • เส้นทึบสีขาว (実線): ห้ามขับรถแซงหรือเปลี่ยนเลนข้ามเส้นนี้โดยเด็ดขาด.
  • เส้นประสีขาว (破線): สามารถขับรถแซงหรือเปลี่ยนเลนได้ แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง.
  • ทางม้าลาย (横断歩道): พื้นที่ที่ทำเครื่องหมายไว้ให้คนเดินข้ามถนน ผู้ขับขี่ต้องหยุดให้คนข้ามเสมอ.
  • สัญลักษณ์คำว่า “หยุด” (止まれ): มักเขียนอยู่บนพื้นถนนก่อนถึงทางแยกหรือทางข้ามรถไฟ หมายถึงต้องหยุดรถให้สนิทก่อน.

ข้อควรระวังและการเตรียมตัว

เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยในญี่ปุ่น, สิ่งสำคัญคือ:

  1. ทำความเข้าใจกฎจราจร: ศึกษา กฎจราจรญี่ปุ่น อย่างละเอียดก่อนการเดินทาง.
  2. ระมัดระวังป้ายจำกัดความเร็ว: ญี่ปุ่นมีป้ายจำกัดความเร็วที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่.
  3. ให้ความสำคัญกับคนเดินเท้า: ผู้ขับขี่ต้องให้สิทธิ์แก่คนเดินเท้าเสมอ, โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ ทางม้าลายญี่ปุ่น.
  4. ใช้แผนที่นำทาง: GPS หรือแอปพลิเคชันนำทางจะช่วยให้คุณปฏิบัติตามคำสั่งของป้ายจราจรได้อย่างถูกต้อง.

สรุป

การทำความเข้าใจ สัญญาณไฟจราจรในญี่ปุ่น และ ป้ายจราจรญี่ปุ่น เป็นกุญแจสำคัญสู่การขับขี่ที่ปลอดภัยและราบรื่น. การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และการเคารพกฎจราจร ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างไร้กังวล แต่ยังสร้างความประทับใจที่ดีในฐานะนักท่องเที่ยวอีกด้วย. หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่วางแผนจะขับรถในญี่ปุ่น และขอให้ทุกท่านเดินทางอย่างปลอดภัย.

สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ:
Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์
Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า)
โทรศัพท์ : 083-5161596 หรือ 093-4083377
อีเมล : contact@iddrives.

บทความล่าสุด

ข่าวล่าสุด