บนท้องถนนที่เต็มไปด้วยรถยนต์และมอเตอร์ไซค์จำนวนมาก การสื่อสารที่ชัดเจนระหว่างผู้ขับขี่ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยลดความเข้าใจผิดและป้องกันอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในวิธีที่ใช้กันมายาวนานก่อนจะมีไฟเลี้ยวหรือสัญญาณไฟก็คือ “สัญญาณมือจราจร” ซึ่งแม้ในยุคเทคโนโลยีทันสมัย ผู้ขับทุกคนก็ควรเรียนรู้และจดจำไว้ เพราะอาจจำเป็นต้องใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
วันนี้ IDDriver วัน จะพาคุณมารู้จัก สัญญาณมือที่ผู้ขับรถควรรู้ ว่าแต่ละแบบหมายถึงอะไร และควรใช้เมื่อใด เพื่อช่วยให้ทุกการขับขี่ปลอดภัยและมีมารยาทมากขึ้นบนท้องถนน
ทำไม “สัญญาณมือ” ถึงสำคัญ?
แม้ว่ารถยนต์สมัยใหม่จะมีระบบไฟเลี้ยวและไฟเบรกครบถ้วน แต่ก็มีหลายสถานการณ์ที่สัญญาณไฟอาจใช้งานไม่ได้ เช่น
• ระบบไฟขัดข้อง
• ไฟเลี้ยวหรือไฟเบรกเสีย
• ขับในพื้นที่น้ำท่วมหรือหมอกหนา
• ขับมอเตอร์ไซค์ในสภาพอากาศไม่ปกติ
ในกรณีเหล่านี้ สัญญาณมือจราจร จะช่วยให้ผู้ขับคนอื่นเข้าใจเจตนาของเราได้ทันที เช่น ต้องการเลี้ยวหรือหยุด ซึ่งช่วยลดอุบัติเหตุจากการเข้าใจผิดได้มาก
สัญญาณมือจราจรที่ผู้ขับรถควรรู้
- สัญญาณมือ “เลี้ยวขวา”
 
ยื่นแขนขวาออกจากหน้าต่างหรือด้านข้างของรถในแนวตรง เพื่อบอกให้รถคันหลังรู้ว่าคุณกำลังจะ เลี้ยวขวา หรือเปลี่ยนเลนไปทางขวา
ควรใช้เมื่อ
ไฟเลี้ยวขวาเสีย หรือเมื่อขับในบริเวณที่ต้องการให้รถคันอื่นเห็นเจตนาชัดเจน เช่น ทางร่วม ทางแยก
- สัญญาณมือ “เลี้ยวซ้าย”
 
ยื่นแขนขวาออกไปด้านนอก แล้วงอข้อศอกชี้ปลายนิ้วลงด้านล่าง เพื่อบอกว่าจะ เลี้ยวซ้าย หรือเปลี่ยนเลนซ้าย
ควรใช้เมื่อ
ไฟเลี้ยวซ้ายไม่ทำงาน หรือในบริเวณที่มีการจราจรหนาแน่น
- สัญญาณมือ “หยุดรถ”
 
ยื่นแขนขวาออกไปด้านนอก แล้วงอข้อศอกขึ้นในลักษณะตั้งฉากกับพื้น ปลายนิ้วชี้ขึ้นด้านบน เพื่อบอกว่าจะ หยุดรถหรือชะลอความเร็ว
ควรใช้เมื่อ
ต้องการหยุดรถกะทันหัน เช่น มีคนข้ามถนน หรือมีสิ่งกีดขวางด้านหน้า
- สัญญาณมือ “ขอแซง”
 
ยื่นแขนขวาออกไปในแนวตรง แล้วโบกขึ้นลงเบา ๆ เพื่อขอแซงรถคันหน้า เป็นการแสดงเจตนาว่าจะเปลี่ยนเลนไปทางขวา
ควรใช้เมื่อ
ขับรถในถนนแคบ หรือในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณไฟเตือน
- สัญญาณมือ “ให้รถคันหลังแซงได้”
 
ยื่นแขนขวาออกไปในแนวตรง แล้วโบกมือไปข้างหน้า เป็นการสื่อสารให้รถคันหลังรู้ว่า สามารถแซงไปได้อย่างปลอดภัย
ควรใช้เมื่อ
รถของคุณชะลอความเร็ว หรืออยู่ในเลนซ้ายและเห็นว่ารถคันหลังต้องการแซง
เคล็ดลับการใช้ “สัญญาณมือ” อย่างปลอดภัย
• ใช้ มือขวา ในการส่งสัญญาณเสมอ เพื่อให้มองเห็นชัดจากด้านข้างของรถ • ก่อนส่งสัญญาณ ควรมองกระจกหลังเพื่อประเมินระยะห่างจากรถคันอื่น • ห้ามใช้สัญญาณมือในระยะกระชั้นชิด เพราะผู้ขับคันหลังอาจเบรกไม่ทัน • หากเป็นเวลากลางคืน ควรเปิดไฟภายในหรือใช้ไฟฉายช่วยให้สัญญาณเห็นได้ชัด
สัญญาณมือ = มารยาทในการขับขี่ที่ดี
การใช้ สัญญาณมือจราจร ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเป็น “มารยาทในการขับขี่” ที่สะท้อนถึงความมีน้ำใจบนท้องถนน เพราะแสดงให้เห็นว่าเราคำนึงถึงผู้ร่วมทางและให้ความสำคัญกับการสื่อสารที่ถูกต้อง
ยิ่งในยุคที่การจราจรหนาแน่นและมีผู้ขับหลายประเภท การรู้จักใช้สัญญาณมือจะช่วยให้ทุกคนเข้าใจเจตนากันได้ง่ายขึ้น ลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศการขับขี่ที่ปลอดภัยและเป็นมิตร
สรุป รู้ไว้ ไม่เสียหาย ปลอดภัยแน่นอน
แม้ปัจจุบันรถยนต์ส่วนใหญ่จะมีระบบไฟสัญญาณครบ แต่ “สัญญาณมือที่ผู้ขับรถควรรู้” ยังคงเป็นพื้นฐานสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะไม่มีใครรู้ว่าเหตุการณ์ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้นเมื่อใด
IDDriver วัน ขอแนะนำให้ผู้ขับทุกคนฝึกใช้สัญญาณมือให้ชำนาญ พร้อมมีสติและมารยาทในการขับขี่เสมอ เพราะ “สัญญาณมือเล็ก ๆ” อาจช่วย “รักษาชีวิตใหญ่ ๆ” บนท้องถนนได้จริง
สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ:
Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์
Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า)
โทรศัพท์ : 083-5161596 หรือ 093-4083377
อีเมล : contact@iddrives.co.th
								
											






