ทำไมถึงไม่มีรถยนต์สัญชาติไทย? ปัจจัยเบื้องหลังที่หลายคนสงสัย

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในฐานการผลิตรถยนต์สำคัญของอาเซียน มีโรงงานประกอบรถยนต์ของแบรนด์ต่างประเทศหลายยี่ห้อ และมีการส่งออกยานยนต์เป็นมูลค่ามหาศาล ทว่าเมื่อพูดถึง “รถยนต์สัญชาติไทย” แบรนด์ที่ออกแบบ ผลิตร่วม และจำหน่ายภายในประเทศจริง ๆ กลับหาได้ยาก ID Driver จะพาคุณสำรวจสาเหตุที่ ทำไมถึงไม่มีรถยนต์สัญชาติไทย เช่น “แบรนด์ที่คนไทยออกแบบ ผลิต และเป็นของคนไทยจริง ๆ” พร้อมวิเคราะห์ปัจจัยด้านกฎหมาย เทคโนโลยี ทุน และการตลาด เพื่อช่วยให้เข้าใจแนวทางที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต

ความหมายของ “รถยนต์สัญชาติไทย”

ก่อนอื่นควรนิยามให้ชัดว่า “รถยนต์สัญชาติไทย” หมายถึงอะไร โดยทั่วไปคือ ยานยนต์ที่ถูกออกแบบ พัฒนา ผลิต หรือมีแบรนด์เจ้าของเป็นคนไทย หรือบริษัทไทยเท่านั้น ไม่ใช่เพียง “ประกอบในไทย” ภายใต้ Brand ต่างประเทศ

แม้ประเทศไทยจะมีโรงงานผลิตรถยนต์หลายแห่ง แต่เกือบทั้งหมดเป็นแบรนด์จากต่างชาติ เช่น Toyota, Honda, Mitsubishi, Isuzu, Nissan ฯลฯ ซึ่งนำชิ้นส่วนมาประกอบในโรงงานไทย และบางรุ่นส่งออก แต่อินเทอร์เฟซของแบรนด์ ความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์สิทธิบัตรและดีไซน์หลัก ยังคงอยู่กับบริษัทแม่ต่างประเทศ

ปัจจัยหลัก ทำไมถึงไม่มีรถยนต์สัญชาติไทย

  1. เศรษฐศาสตร์ทุนสูง & การวิจัยพัฒนา (R&D Cost)

การสร้างแบรนด์รถยนต์ต้องใช้ทุนมหาศาล ไม่เพียงแต่การประกอบ แต่รวมถึงงานวิจัย วิศวกรรมเครื่องยนต์ ระบบความปลอดภัย และมาตรฐานสิ่งแวดล้อม เช่น มาตรฐานไอเสีย มาตรฐานแรงปะทะ (crash test) ฯลฯ การที่จะ “เริ่มแบรนด์ของไทยเอง” ต้องลงทุนใน R&D ที่สูงมาก ซึ่งอาจเกินความสามารถของธุรกิจไทยทั่วไป

  1. เทคโนโลยีและสิทธิบัตรต่างประเทศ

หลายองค์ประกอบสำคัญของรถยนต์ — เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง (transmission) ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หรือแบตเตอรี่ใน EV — ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่ได้มาจากบริษัทต่างชาติ มีสิทธิบัตร / ข้อจดลิขสิทธิ์ ทำให้ “ทำเองทั้งหมด” เป็นเรื่องยากมาก ต้องพึ่งพาการอนุญาต (license) การร่วมทุน (joint venture) หรือการนำเข้าเทคโนโลยี

  1. กฎหมาย มาตรฐาน และข้อบังคับ

ประเทศไทยมีข้อกำหนดด้านความปลอดภัย มลพิษ มาตรฐานอุตสาหกรรมรถยนต์ (ทั้งสำหรับรถที่ผลิตในประเทศและที่นำเข้า) หากจะผลิตรถยนต์ “สัญชาติไทย” ให้ได้มาตรฐานทั้งในประเทศและส่งออก จำเป็นต้องผ่านมาตรฐานระหว่างประเทศ เช่น มาตรฐานยุโรป / อเมริกา / ASEAN / UNECE ซึ่งอาจต้องผ่านการทดสอบแรงปะทะ (crash test), มลพิษไอเสีย, ความปลอดภัยของผู้โดยสาร ฯลฯ ซึ่งมีต้นทุนนำเข้าเครื่องมือทดสอบและแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีให้สอดคล้อง

  1. แรงกดดันการแข่งขัน & ความเชื่อมั่นตลาด

เมื่อผู้บริโภคต้องการความน่าเชื่อถือ แบรนด์รถยนต์ต่างประเทศมักได้รับความมั่นใจเรื่องคุณภาพ บำรุงรักษา เครือข่ายศูนย์บริการอะไหล่และซ่อมบำรุง (after-sales) ซึ่งแบรนด์ไทยใหม่จะต้องสร้างชื่อเสียงและระบบสนับสนุนที่แข็งแกร่ง การแข่งขันกับแบรนด์ระดับโลกจึงเป็นเรื่องท้าทายมาก

  1. ข้อได้เปรียบของประเทศไทยในฐานะ “ศูนย์การผลิตมากกว่ายี่ห้อจริง”

ประเทศไทยสามารถดึงดูดโรงงานประกอบยานยนต์ของแบรนด์ต่างประเทศ ด้วยสิทธิประโยชน์ทางภาษี กฎหมายแรงงาน และโลเคชันใกล้ ASEAN และตลาดส่งออก สิ่งนี้ทำให้ไทยเป็น “ฐานการผลิต” ที่สำคัญ โดยแบรนด์ต่างชาติมองว่าใช้การประกอบในไทยแล้วส่งออกได้ง่ายกว่าเริ่มแบรนด์ใหม่ทั้งหมด

ตัวอย่างแนวคิด / ความพยายามของไทย

แม้จะไม่มีแบรนด์รถยนต์สัญชาติไทยเต็มรูปแบบ แต่มีโครงการวิจัย วิศวกรรม และบริษัท startups ที่เริ่มทำรถไฟฟ้าไทย หรือส่วนประกอบสำคัญ เช่น ระบบแบตเตอรี่ หรือ รถต้นแบบ EV ในมหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานวิจัย ซึ่งเป็นสัญญาณว่าในอนาคตอาจมีแบรนด์ “รถยนต์สัญชาติไทย” เกิดขึ้นได้ หากได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและทุนวิจัยพัฒนา (R&D)

แนวทางที่อาจทำให้ไทยมีรถยนต์สัญชาติไทยในอนาคต
• การลงทุน R&D ด้านยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ร่วมกับภาครัฐ
• การสนับสนุน startup ยานยนต์ไทย
• การตั้งกองทุน / มาตรการของรัฐเพื่อส่งเสริมแบรนด์ท้องถิ่น
• สร้างเครือข่ายศูนย์ทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยในประเทศ
• จับมือกับมหาวิทยาลัย / สถาบันวิจัยพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์
• การส่งเสริมให้มีการผลิต “รถไฟฟ้าไทย” ที่ใช้แบตเตอรี่ / ระบบขับเคลื่อนที่พัฒนาภายในประเทศ เพื่อสร้างชื่อเสียงในตลาดส่งออก

บทสรุป

ถึงแม้ประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในศูนย์การผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ในภูมิภาค แต่เมื่อพูดถึง “รถยนต์สัญชาติไทย” อย่างสมบูรณ์ยังไม่มีแบรนด์หลักที่เป็นของคนไทยเองอย่างเต็มตัว เนื่องจากปัจจัยด้านทุน เทคโนโลยี กฎหมาย และการแข่งขันจากแบรนด์ต่างชาติ

อย่างไรก็ดี ด้วยการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคของ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และเทคโนโลยีอัจฉริยะ (smart mobility) หากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการร่วมกันสนับสนุน มีโอกาสที่ประเทศไทยอาจได้เห็น “รถยนต์สัญชาติไทย” เกิดขึ้นจริงในอนาคต

สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ:
Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์
Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า)
โทรศัพท์ : 083-5161596 หรือ 093-4083377
อีเมล : contact@iddrives.

บทความล่าสุด

ข่าวล่าสุด